วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กฎ 10 ข้อสำหรับคนอยากเก่งภาษาอังกฤษ

วิธีเก่งภาษาอังกฤษโดยธรรมชาติ



ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่จำเป็นมากๆเลยนะครับสำหรับคนที่ต้องการความก้าวหน้าในชีวิต ต้องการงานดีๆในบริษัทดีๆ ใช้สำหรับติดต่อกับชาวต่างชาติได้เกือบครึ่งโลก และความรู้ทั้งหลายในโลก 90% เป็นภาษาอังกฤษนะครับ และความรู้ทั้งหลายก็กองอยู่บนอินเตอร์เน็ตให้เราอ่านเป็นล้านๆชาติก็ไม่หมด  แล้วภาษาอังกฤษมันก็ใช้หาเงินได้ดีด้วย เช่น ใช้ในการติวหนังสือ หรือเป็นไกด์ทัวร์(อาชีพในฝัน ของหลายๆคน) ผมเองเป็นคนที่เกลียดเรื่องวิชาการที่อยู่ในหนังสือเรียนมากๆ แต่นอกจากนั้น ผมอ่านหมดทั้งวิชาการและไม่วิชาการ เรื่องต่างๆที่ผมเอามาเขียนในเว็บนี้ส่วนมากก็จะเอามาจากเว็บต่างประเทศ เวลาผมอยากรู้อะไรก็จะหาเป็นภาษาอังกฤษ เข้าไปอ่านในเว็บบอร์ดฝรั่ง เพราะมันมีคนเขียนถึงมากกว่า ยิ่งคนเขียนถึงมาก เรายิ่งได้ข้อมูลมากขึ้น แต่ผมว่าหลายๆคนคงเกลียดการเรียนภาษาอังกฤษเข้าใส้เลยทีเดียว แต่ลองทำตามผมดู รับรองว่าไม่นานจะฟังพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นมากๆ ทั้งๆที่ไม่ได้อ่านหนังสือแกรมม่าหรือท่องศัพท์เลย และผมเชื่อว่าวิธีนี้ได้ผล เพราะเพื่อนๆของผมเองที่ทำตามวิธีข้างล่างโดยไม่รู้ตัว ก็ได้ A วิชาภาษาอังกฤษมาอย่างง่ายดายเหมือนกัน

1.เปลี่ยนทัศนคติ

ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ “ทุกๆเรื่องในชีวิต” นะครับ ถ้าสมมติว่าคุณว่ายน้ำไม่เป็น แล้วมีคนบอกคุณว่าน้ำบ่อนี้ลึกมาก และผลักคุณลงไป และคุณยังยึดคติที่ว่าน้ำลึก คุณก็อาจพยายามว่าน้ำจนจมน้ำไป ทั้งๆที่ไม่ลองหยั่งดูเลยว่าน้ำมันลึกจริงๆหรือเปล่า สำหรับเรื่องการเรียนภาษาก็เหมือนกันครับ หลายๆคนแค่เห็นตัวอักษรก็เมินหน้าหนีแล้ว ไม่คิดจะอ่านมันหรอก แม้ว่าคำนั้นอาจจะเขียนว่า Don’t! หรือ Watch Out! ก็ตาม เชื่อผมเถอะครับ ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้แสดงว่าคุณเองก็อยากจะเก่งภาษาอังกฤษเหมือนกัน ขั้นแรกที่คุณ ต้องทำเลยก็คือ ปลดปล่อยอคติ และมีทัศนคติที่ดีกับภาษาอังกฤษ วิธีที่ผมใช้ในการสร้างแรงบันดาลใจในทำอะไรบางอย่างที่ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากทำ นั่นก็คือหาสมุดเล่มหนึ่ง และเขียนลงไปถึงสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นหลังจากคุณทำสิ่งๆนี้แล้ว แล้วก็เปิดอ่านบ่อยๆ หรือ ติดไว้ที่ประตู

2.เริ่มจากฟังเพลง

“ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก” คำกลอนนี้บ่งบอกถึงธรรมชาติของมนุษย์ได้อย่างดีทีเดียว มีใครที่ไหนบ้างที่ไม่ชอบดนตรี? การฟังเพลงภาษาอังกฤษในที่นี้ไม่ได้หมายถึง จะให้คุณเข้าใจทุกๆคำ เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ผมเชื่อว่าทุกๆคนคงจะเคยได้ยินเพลงๆหนึ่ง ตั้งหลายครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่พอนึกดูดีๆ ดันไม่รู้เลยว่าเพลงมันพูดถึงอะไรกันแน่ เพลงภาษาอังกฤษก็เหมือนกันครับ เราไม่ได้ฟังเพื่อเนื้อหาขนาดนั้น แต่ที่ผมบอกว่าให้ฟังเพลงภาษาอังกฤษนั้นมันมีเหตุผลครับ เหตุผลนั้นคือจิตวิทยาเรื่องความเชื่อมโยง ซึ่งถูกนำมาใช้กันแพร่หลายในวงการธุรกิจ นั่นก็คือ การโฆษณาโดยใช้ดารานางแบบนั่นเอง อธิบายได้ว่า เวลาเราสัมผัสอะไรที่เราชอบที่อยู่คู่กับอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้จัก สิ่งที่เราชอบนั้นมันจะทำให้ของอีกสิ่งนั้นดูดีขึ้นมาพร้อมกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคนรู้จักก๊อกน้ำซัลวา หรือ อินเตอร์เน็ต 3BB และการที่เราฟังเพลงภาษาอังกฤษมันก็ให้ผลแบบเดียวกันครับ คือ เพลงภาษาอังกฤษที่ไพเราะจtทำให้เราค่อยๆรู้สึกดีขึ้นกับภาษาอังกฤษ และทำให้เราซึมซับภาษาอังกฤษไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนใครๆที่มีอคติกับเพลงภาษาอังกฤษ ผมแนะนำว่า ให้แทรกเพลงเพราะๆ เก่าๆ ที่ดังๆ(ผมเดี๋ยวจะทำลิสต์เพลงพวกนี้ไว้ให้ไว้ให้)ของฝรั่งไว้ ในลิสต์เพลงโปรดของคุณ แทรกเข้าไปแค่ 10-20 % ก็พอ เรื่องนี้มีงานวิจัยโดยตรงเลยทีเดียว เขาระบุว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนให้คนใดคนหนึ่งที่ชอบเพลงแนวหนึ่ง หันไปฟังเพลงอีกแนวหนึ่งได้ทันที แต่ถ้าเราค่อยให้เขาฟังเพลงอีกแนว เป็นสัดส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเพลงแนวเก่าที่เขาฟัง ไม่นาน เขาก็จะชอบเพลงแนวใหม่ไปเอง

3.วิธีดูหนัง

อ.วรภัทร์ ภู่เจริญเคยกล่าวไว้(บ่อย) ว่า “สุดยอดเรียน คือ ดูหนัง” ผมขอเพิ่มอีกหนึ่งเสียงว่าจริงครับ และผมจะบอกว่า การเปิด Subtitle ของคนไทยนั้นทำกันอย่างผิดๆ ทำให้เราไม่ได้เพิ่มพูนความรู้ทางภาษาเลย การเปิดSubtitle ปกติของคนไทยคือ เสียงอังกฤษ บรรยายไทย ใช่ไหมครับ? ถ้านั่นคุณดูเอาสนุก เอารู้เรื่อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้เรื่องอื่น เช่นการวางกลยุทธ์ของหนัง หรืออะไรก็แล้วแต่ มันก็เป็นสิ่งที่ถูกแล้วครับ แต่ถ้าเราอยากจะเก่งภาษาอังกฤษ เราต้องเริ่มจากเสียงไทย บรรยายอังกฤษครับ มันมีข้อดีก็คือ

1. เรารู้เรื่องแน่นอนว่า ประโยคที่กำลังพูดนั้น เขาพูดว่าอะไร

2.คำบรรยายภาษาอังกฤษทำให้ เรารู้ว่า ประโยคที่เราได้ยินนั้น ภาษาอังกฤษ เขาพูดว่าอย่างไร

กลับกันครับถ้าเราเปิดเสียงอังกฤษบรรยายไทย นอกจากยากที่จะฟังรู้เรื่องแล้ว เรายังต้องตามอ่านบรรยายไทย จนไม่ได้ดูหนัง และทำให้ไม่รู้เรื่องนั่นเอง ซึ่งเราก็จะไม่ได้อะไรจากหนังเรื่องนั้นเลย (แต่มันก็ดีถ้าคุณหัดอ่านเร็วอยู่) พอเราได้ยินคำไหนที่เราอยากรู้ว่าภาษาอังกฤษมันพูดกันว่าอย่างไร เราก็แค่อ่านข้างล่างครับ ไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ทุกคำ แค่ลองอ่านดู ถ้าชอบก็จดหรือจำไว้ แรกๆเราก็จะไม่ชินหรอกครับ แต่รับรองว่าถ้าคุณทำแบบนี้ บวกกับข้ออื่นๆที่ผมบอก มันจะทำให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้แน่ๆอ่านต่อ

ข้อมูลการศึกษาต่อต่างประเทศ คำแนะนำเรียนต่อนอก เรียนต่อต่างประเทศ

ทำความเข้าใจ สเตทเม้นท์ เพื่อประกอบในการทำวีซ่า

วีซ่า สิ่งสำคัญที่หลายคนกังวล วันนี้เรามาทำความเข้าใจ  เกี่ยวกับสเตทเม้นท์  เพื่อประกอบในการทำวีซ่า ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้นะคะ หวังว่าบทความจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจกำลังจะไปศึกษาต่อต่างประเทศนะคะ

เรียนต่อต่างประเทศ เลือกเรียนต่อที่ไหน ดี ?

คำถามยอดฮิต เรียนต่อต่างประเทศ เลือกเรียนที่ไหนดี ก่อนที่เราจะเลือกเรียนที่ไหน พี่แนะนำว่าเราควรประเมินตัวเองก่อนว่าเราชอบอะไร อยากได้อะไร อยากเรียนแบบไหน เรียนอะไรแล้วเรามีความสุข สนุกไปกับมัน ถ้าเรามีคำตอบอยู่แล้ว สิ่งนั้นจะเป็นตัวชี้ทางให้เราว่าเราเหมาะกับสถาบันการศึกษาไหน ควรไปศึกษาต่อที่ไหนดี

การเลือก Agency เป็นสิ่งที่สำคัญในการเรียนต่อต่างประเทศ

การเลือกที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่ายใช่ไหมคะ? เพราะมี Agency มากมายและหลากหลายให้เลือก แต่การที่เราจะเลือกAgency ที่ดี นั้นอาจจะเป็นไปได้ไม่ง่ายอย่างที่คิด.. วันนี้พี่ยุ้ยมีบทความดีๆๆในการเลือก Agency ที่เหมาะสมและดีกับตัวผู้เรียนเอง ให้ผู้เรียนพิจารณาให้ถี่ถ้วนในการตัดสินใจกันคะ

มารู้จักกับ IELT TOFEL

IELTS คืออะไร ทดสอบอะไรบ้าง GMAT คืออะไร ข้อมูลเหล่านี้ควรศึกษาไว้นะคะ สำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อนอก เรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าค่ะ ว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร สำคัญอย่างไร
Read more: มารู้จักกับ IELT TOFELอ่านต่อ

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล # 3

1. What is the name of your school? - โรงเรียนของคุณชื่ออะไร
2. How many teachers are there in your school? - ที่โรงเรียนของคุณมีคุณครูกี่คน
3. What do you teach? - คุณสอนวิชาอะไร
4. Do you like Thai teaches? - คุณชอบคุณครูไทยหรือเปล่า
5. How long have you been a teacher? - คุณเป็นครูมานานเท่าไรแล้ว
6. What do you teach? - คุณสอนวิชาอะไร
7. Where is your school? - โรงเรียนของคุณอยู่ที่ไหน
8. Do you like Thai students? - คุณชอบนักเรียนไทยไหม
9. How many students are there in your class? - ในห้องเรียนของคุณมีนักเรียนทั้งหมดกี่คน
10. Is your school big? - โรงเรียนของคุณใหญ่ไหมอ่านต่อ

74 ประโยคพื้นฐาน คำถามภาษาอังกฤษ # 2

1. What languages can you speak? คุณสามารถพูดภาษาอะไรได้บ้าง
2. What is your favourite musical instrument? คุณชอบเล่นเครื่องดนตรีชนิดไหน
3. Where do you want to go in Thailand? คุณอยากไปเที่ยวที่ไหนในประเทศไทย
4. Can you teach me English please? คุณสามารถสอนฉันพูดภาษาอังกฤษได้ไหม
5. Do you like Thai fruit? คุณชอบผลไม้ไทยไหม
6. Do you like to cook food? คุณชอบทำอาหารรึเปล่า
7. Do you like to listen to Thai songs? คุณชอบฟังเพลงไทยไหม
8. Have you ever been to a temple? คุณเคยไปวัดไหม
9. Have you ever been to Chiang Mai? คุณเคยไปเชียงใหม่ไหม
10. Why do you like Thailand? ทำไมคุณถึงชอบประเทศไทยอ่านต่อ

39 ประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล # 1

ประโยค ภาษาอังกฤษเบื้องต้น เพื่อการสื่อสาร
เคยไหม.. เรียนภาษาอังกฤษมาเยอะแยะ แต่เวลาจะใช้ ดั๊นนนนน ลืมมซะหมด วันนี้ Yenta4 รวบรวมประโยคพื้นฐาน ประโยคคำถามทั่วๆ ไป ภาษาอังกฤษ มาฝาก เอาไว้ให้น้องๆ อ่านเล่นๆ จำผ่านๆ ตา ในวันว่างๆ เผื่อวันหนึ่งต้องใช้ จะได้ เป๊ะ เป๊ะ ไงจ๊ะ
1. How long will you stay in Thailand? - คุณพักในประเทศไทยนานไหม
2. Do you like Thailand?- คุณชอบประเทศไทยไหม
3. Which region of Thailand do you like? - คุณชอบภาคไหนของประเทศไทย
4. Where do you come from? - คุณมาจากที่ไหน
5. Do you like Thai food? - คุณชอบอาหารไทยไหม
6. What is the capital of your country? - เมืองหลวงของประเทศคุณชื่ออะไร
7. Can you speak Thai? - คุณสามารถพูดภาษาไทยได้ไหม
8. What is your name? - คุณชื่ออะไร
9. What is your favourite Thai food? - คุณชอบอาหารไทยอะไร
10. Do you like Thailand? - คุณชอบประเทศไทยไหมอ่านต่อ